ประเทศนี้มีอะไร ?

ฝรั่งเศส
              
               เที่ยวชมรอบเมืองแล้ว ก็ต้องแวะชิมอาหารเลื่องชื่อของฝรั่งเศสกันซักหน่อย เพราะประเทศนี้เขาโด่งดังด้านอาหารการกินอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นแหล่งผลิตไวน์ และ แชมเปญที่สำคัญที่สุดของโลกในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไวน์แดงและไวน์ขาว สำหรับขนมปังก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน ขนมปังของฝรั่งเศสจะเรียกว่า บาแกตต์ (Baquette) มีเอกลักษณ์พิเศษกว่าใคร ด้วยการทำเป็นทรงยาวกว่า 2 ฟุต รูปร่างคล้ายกระบองเลย เวลาทานมักบิออกด้วยมือ หรือฝานออกเป็นชิ้นๆ ส่วนอีกชนิดที่นิยมคือ ครัวซองต์ ค่ะ ท่านสามารถลิ้มลองได้ในรายการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า จากภัตตาคารภายในที่พักในฝรั่งเศสของท่าน นอกจากนี้ยังมี เครป ขนมสุดฮิตของชาวปารีเซียง และ เอแคลร์ ขนมที่เป็นที่รู้จักกันดีของชาวฝรั่งเศส สำหรับเป็นทางเลือกอีกด้วย

                 ฝรั่งเศส เรียกได้ว่าเป็นเมืองแฟชั่นก็ว่าได้ เพราะฉะนั้น เสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นของประเทศฝรั่งเศสจึงมีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะถือเป็นศูนย์รวมของดีไซเนอร์ชื่อดัง และเป็นต้นฉบับของแฟชั่นทั่วโลก รูปแบบของเสื้อผ้าจะค่อนข้างทันสมัย สำหรับสินค้าอีกอย่างที่เลื่องลืออย่างมากคือ น้ำหอม นักท่องเที่ยวทั่วไปนิยมซื้อน้ำหอมยี่ห้อที่ฝรั่งเศสเป็นต้นตำรับการผลิต เพราะจะมีราคาถูกกว่าที่นำมาขายในต่างประเทศมาก เมืองที่มีชื่อเสียงในการผลิตหัวน้ำหอมกลิ่นต่างๆ คือ เมืองนีส คานส์ ริเวียร่า ส่วนยี่ห้อน้ำหอมที่โดดเด่นของฝรั่งเศสได้แก่ Christian Dior, Caron, Givenchy, Rochas, Guerlain, Paco Rabanne เป็นต้น

             สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดมีดังนี้ หอไอเฟล , พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ , พระราชวังแวร์ซายส์ , พิพิธภัณฑ์ออร์เซ , ประตูชัยฝรั่งเศส , ซองตร์ ปอมปิดู , มงต์-แซงต์-มิแชล , ชาโต เดอ ชองบอร์ด , แซงต์-ชาแปลล์ , ชาโต ดู โอต์-โคนิคบูร์ก , ปุย เดอ โดม , พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ และ การ์กาสซอนน์ 


เยอรมนี


กำแพงเบอร์ลิน (Berliner Mauer)
เป็นอนุสรณ์ให้กับคนรุ่นหลัง จะมีไม้กางเขนปักอยู่ นั่นเป็นบริเวณที่ผู้หลบหนีในอดีตถูกยิงเสียชีวิตตรงนั้น เขาเลยเอาไม้ กางเขนมาปักเอาไว้เป็นอนุสรณ์เตือนใจ

ประตูบรานเดนบวร์ก (Brandenburger Tor/Brandenburg Gate)
เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบอร์ลินเพราะเป็นประตูเมืองเก่า ได้รับการก่อสร้างระหว่าง ค.ศ.1788-91 ตามศิลปะแบบโรมัน  โดยฝีมือ C.G.Langhans สถานที่แห่งนี้ถือเป็นเครื่องหมายแห่งความสงบสุข  และมีความสำคัญโดยเป็นจุดแบ่งกรุงเบอร์ลินออกเป็นสองส่วนคือตะวันออกและตะวันตก ด้านบนมีรูปปั้นชื่อ Quadrigaสูง 5เมตร มีราชินีแห่งชัยชนะ (Siegesgoettin Viktoria)

ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Schloß Neuschwanstein)
เป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงที่แดนเนรมิต


จตุรัสมาเรียนพลัทซ์ (Marienplatz)
อยู่กลางใจเมืองของนครมิวนิค 850 ปีมาแล้วตั้งแต่ยุโรปสมัยกลาง (Middle Ages) เป็น " หัวใจ " ของเขตเมืองเก่า และเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มชมเมือง ในยุคกลางที่นี่เคยเป็นตลาด แต่ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ มาเรียนพลาตซ์ มีจุดเด่นอยู่ที่ Glockenspiel หอระฆัง ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ เวลา 11 โมงเช้าในหน้าหนาว และ 5 โมงเย็นในหน้าร้อน


               อาหาร :: ประเทศเยอรมนีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติเป็นเบียร์บริโภคเบียร์เยอรมันเป็นของสูงที่สุดในโลกและชาวเยอรมันบริโภคเนื้อในรูปของไส้กรอกมากที่สุดไส้กรอกของประเทศเยอรมนีประเทศเดียวมีถึง 1,500 ชนิด


เนเธอแลนด์

               อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ เริ่มก่อตั้งประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นเมืองที่ ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ มีประชากรในเขตตัวเมืองประมาณ 742,000 คน แต่ถ้านับรวมประชากรในเขตเมืองโดยรอบทั้งหมด จะมีประมาณ 1.5 ล้านคน (ข้อมูลปี 2005) อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป โดยเฉพาะช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์ถึงแม้ อัมสเตอร์ดัม จะเป็นเมืองหลวงของประเทศ แต่ศูนย์กลางของหน่วยงานรัฐบาลนั้นอยู่ที่เฮก

ร็อตเตอร์ดัม (Rotterdam) เป็นเมืองท่าหลัก และเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์) ร็อตเตอร์ดัมนับเป็นเมืองท่า ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีลักษณะต่างจากเมืองอื่น ๆ ในเนเธอร์แลนด์คือเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมยุคใหม่ ในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการส่งเสริมการท่อง เที่ยวเป็น เมืองแห่งสถาปัตยกรรม
มหาวิหารโนเตรอดาม แห่งเมืองรวง สร้างด้วยศิลปแบบกอธิคตอนปลาย และมีการสร้างเสริมต่อเติมด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยจากศตวรรษที่ 12-19 จึงมีปะปน ทั้งแผ่นหินหนาแกะสลักหยาบๆปูนปั้นละเอียดราวดอกไม้ไหวและหลังคายอดแหลมสูง รวมทั้งกระจกสีที่สวยงามวิจิตร

โดวิลส์ (Deauville) เมืองตากอากาศริมทะเลอีกเมืองหนึ่ง ที่ดาราและนางแบบนิยมมาถ่ายรูปลงปกนิตยสารกันอยู่เป็นประจำ มีการสร้างสะพานไม้ เพื่อการนี้การนี้โดย เฉพาะ เดินเที่ยวชมเมืองเล็กๆ ที่หรูหรา และแวดล้อมไปด้วยกลิ่นอายของเหล่าชนชั้นสูงในอดีต ตัวเมืองเรียงรายไปด้วยด้วยอาคารร้านค้าสวยงามน่ารัก ขายสินค้ายี่ห้อดังๆ อาทิ กุชชี่, คาร์เทียร์, คริสเตียนดิออร์, หลุยส์ วิตตอง, ปราดาและห้างแพรงตองส์ ในบรรยากาศสบายๆ 

ซึ่งเก็บเรื่องราวเกี่ยวกับการรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยประวัติศาสตร์ของแคว้นนอร์มังดี มีอาคารกว่า 200,000 หลังถูกทำลาย ผู้คนเสียชีวิตนับแสน และการยกพลขึ้นบกในวันดี-เดย์ ตลอดจนเรื่องราวของผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพคนแรกจนถึงปัจจุบัน
อนุสรณ์สถานพิพิธภัณฑ์เพื่อสันติภาพ (Momorial de Caen)

มงแซงต์-มิเชล ศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เทียบได้กับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งกรุงโรม สร้างมาหลายยุคหลายสมัยเปลี่ยนแปลงรูปแบบตลอดการสร้าง จน ค.ศ. 966 นักบวชนิกายเบเนดิกตีนจากวิหารแซ็ง-ว็องดรีย์ ได้สร้างโบสถ์และอาคารขึ้นใหม่เป็นอารามขนาดใหญ่ และมีการตั้งชื่อใหม่ว่ามงแซ็งต์-มิเชล   ตัววิหารตั้งอยู่บนฐานหินแกรนิตขนาดใหญ่ สูงจากระดับน้ำทะเล 75 เมตร (250 ฟุต) จากนั้นมีการสร้างต่อเติมหลายยุคหลายสมัยที่แคว้นนอร์มังดีเรืองอำนาจและอิทธิพล ถึงที่สุด เป็นศาสนสถานสำหรับบำเพ็ญสมาธิและถือสันโดษมาตั้งแต่โบราณ องค์การยูเนสโก ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 1979
อาหารเลื่องชื่อ :: ปลาแฮริ่งสด มักจะทานเปล่าๆ หรือจะทานกับขนมปังก็ได้ ซึ่งมีขายอยู่ทั่วไป ตั้งแต่ตามตลาด ซุ้ม ไปจนถึงภัตตาคาร นอกจากนี้ยังมี สตั๊มป์ผดหรือมันฝรั่งบดผสมกับผัก เวลาทานมักผสมเบคอนลงไปด้วย ยิ่งทานคู่กับไส้กรอกอ้วนๆ ก็ยิ่งเข้ากัน, มันฝรั่งทอดส่วนของหวานขึ้นชื่อของเนเธอร์แลนด์ก็จะเป็น Stroopwafel และ แพนเค้ก (Pannekoek) ซึ่งที่เนเธอร์แลนด์นี้เองถือเป็นต้นตำรับของขนมชนิดนี้ โดยคนที่นี่นิยมทานกับไอศครีมและวิปปิ้งครีม ใครได้มาชิมถึงแหล่งกำเนิดเป็นต้องติดใจ และ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
Stroopwafel
ออสเตรีย

ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ใครที่ยังไม่เคยได้ยินเรื่องราวหรือเห็นภาพชิงช้าสวรรค์ยักษ์ของเวียนนาจากโบรชัวร์ ต้องขอบอกกล่าวว่าชิงช้าสวรรค์ยักษ์นี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงและสัญลักษณ์ที่มีคนหลงรักมากสุดของออสเตรียด้วยความสูง 64.75 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 60.96 เมตร ชิงช้าสวรรค์ยักษ์คือสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเวียนนา ดึงดูดผู้คนจากใกล้และไกลให้มาเยือน ชิงช้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อฉลองวโรกาสครองราชย์ครบ 50 ปี ของจักรพรรดิฟรานซ โยเซฟ ที่ 1 ออกแบบโดย ดับเบิ้ลยู บัสเส็ท แอนด์ เอช สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1897 เดิมมีตู้กระเช้า 30 ตู้ แต่ลดเหลือ 15 ตู้ในปี 1945 นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเวียนนาทุกคนควรหาโอกาสขึ้นชิงช้าสวรรค์ยักษ์แห่งนี้ให้ได้ เพราะเป็นวิธีชมเมืองโดยรอบที่ง่ายและเยี่ยมที่สุด ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ยังเปิดให้เช่าสำหรับงานฉลองเล็กๆและการจัดแถลงข่าว พร้อมบริการอาหารค่ำชั้นเลิศในตู้กระเช้า เดอลุกซ์จำนวน 2 ตู้
 

พระราชวัง Schloss Hof  พระราชวังฤดูร้อนของเจ้าชายออยเก๋นเนอร์ (Prince Eugene) ที่ชื่อ Schloss Hof เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างสไตล์บาโรคที่จัดว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มั นได้ถูกปรับปรุงให้คืนกลับมามีชีวิตอีกครั้งเพราะมีโครงการซ่อมแซมครั้งใหญ่ เริ่มต้นในปี 2002 และใช้งบประมาณไปกว่า 30 ล้านยูโร

 
พิพิธภัณฑ์แสนพิลึก นอนเซียม” (Nonseum) หมู่บ้านของคนพิสดาร และพิพิธภัณฑ์สำหรับสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่มีใครต้องการ ฟังดูแล้วเหมือนเป็นแค่คำกล่าวเสียดสี หากแต่ทั้งสองสิ่งนี้มีอยู่จริง

หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนความสูง 212 เมตร ขับรถจากเวียนนามาแค่ 1 ชั่วโมงแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนที่มีอารมณ์เสียดสีแบบแปลกๆ ที่แฮร์นบามการ์เทน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนเชค หลังหมู่บ้านผลิตไวน์พอยส์ดอร์ฟ นั้น ผู้คนในหมู่บ้านจะมีมุมมองในการมองโลกแบบใหม่ที่สวนทางกับผู้คนทั่วไป บ้างก็ช่างเสียดสี บางคราอาจมีอัธยาศัยดี แต่บางครั้งก็มีเมตตาแบบผิดปกติ สิ่งหนึ่งที่แสดงออกซึ่งความไม่ธรรมดาของเมืองนี้ได้อย่างชัดเจนคือที่ พิพิธภัณฑ์นอนเซียม ซึ่งเต็มไปด้วยการจัดแสดงผลงานประหลาด ตั้งแต่โนมถูกเผา เครื่องกิโยตินเล็บ ไปจนถึงเครื่องป้องกันส้นสูง

บูร์เก็นลันด์
ซังต์มาร์กาเรเธน แฟรี่เทล พาร์ค(
St.Margarethen Fairytale Park), เฟราเอนเคียร์เช่น บาซิลิคา (Frauenkirchen Basilica), พระราชวัง เอสแทรฮาทซือ (Esterhazy Palace), บ่อหินโรมันซังต์มาร์กาเรเธน (St.Margarethen Roman Quarry)

คารินเธีย รถไฟแกร์ลิทซ์ คันเซล (
Gerlitz Kanzel Funicular), มินิมุนดุส (Minimundus), โดมแห่งกูร์ค (Dome of Gurk), ปราสาทโฮโคสแทร์วิทซ์ (Hochosterwitz Castle), โรเซกก์ ไวลด์ พาร์ค (Rosegg Wild Park),

โลเวอร์ออสเตรีย
สำนักสงฆ์เมล์ค (
Melk Abbey), ถ้ำลอดฮินเทร์ บรืลห์ (Hinterbruhl lake grotto), แหล่งโบราณคดีคาร์นุนทุม (Archeological Park Carnuntum)

ซาลสบูร์ก
บ้านเกิดโมสาร์ต (
Mozart's birth house), ถนน กรอสกล็อกแนร์ ไฮอัลไพน์ (Grossglockner High Alpine Road), ป้อมโฮเฮนซาลสบูร์ก (Hohensalzburg Fortress), น้ำตกคริมแลร์ (Krimmler Waterfalls), พระราชวังเฮลบรุนน์ (Hellbrunn Palace), โรงไฟฟ้าคาพรุนเทาแอร์น (Kap-run Tauern power plant)

ทิโรล
เหมืองเงินชวาส (
Schwaz Silver Mine), พระราชวังอัมบราส (Ambras Palace), โบสถ์สตัมส์ (Stams Abbey), พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านทีโรเลียน (Tirolean Folklore Museum), สวนสัตว์อัลไพน์ อินน์สบรุค (Alpine Zoo Innsbruck), .....
A1 ริง ออสเตรีย (A1 Ring Austria), มาเรียเซล บาซิลิคา (Mariazell Basilica), รีแกร์สบูร์ก (Riegersburg), เออร์ซแบร์ก (Erzberg), ลิปิซแนร์ ชทัดท์ พีแบร์ (Lipizzaner Stud Piber), โบสถ์อัดโมนท์ (Admont Abbey), แบร์เรนชุตซคลาม (Barenschutzklamm)

อัปเปอร์ออสเตรีย
ทางรถไฟเพอสท์ลิงก์แบร์ก (
Postlingberg Funicular), ถ้ำน้ำแข็งดัคชไตน์และถ้ำ แมมมอธ โอแบร์ ทราวน์ (Dachstein Ice Caves and Mammoth Caves Obertraun), อาร์ส อิเลคโทรนิคา เซ็นเตอร์ ลินซ์ (Ars Electronica Center Linz), ไคแซร์วิลล่า/ไคแซร์พาร์คในบาดอิชเชิล (Kaiservilla/Kaiserpark in Bad Ischl), .....

เวียนนา
พระราชวังเชินบรุนน์ และ สวนสัตว์ (
Schonbrunn Palace and Zoo), โบสถ์ซังต์สตีฟาน (St.Stephan's Cathedral), ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ (Giant Ferris Wheel), หอคอยดานูบ (Danube Tower), โรงเรียนสอนขี่ม้าแบบสเปน (Spanish Riding School), สุสานจักรพรรดิ์ (Emperor's Crypt)
Wildpark Feldkirch), คุนสเฮาส์ เบรเกนซ์ (Kunsthaus Bregenz), พิพิธภัณฑ์ประจำมณฑลฟอราลแบร์ก (Vorarlberg Federal Museum)

นครรัฐวาติกัน เมืองแห่งศาสนา

 

สิ่งที่น่าสนใจอันดับหนึ่งก็คือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์และลานด้านหน้า จักรพรรดิคอนสแตนตินที่นับถือศาสนาคริสต์ได้สร้างวิหารขึ้นที่บริเวณนี้เป็นครั้งแรกในคริสตศตวรรษที่ 4 แต่วิหารก็เสื่อมโทรมและพังทลายลง จนอีกหนึ่งพันปีต่อมาได้มีการสร้างมหาวิหารหลังปัจจุบันขึ้นมาแทนที่ ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินหลายท่าน แต่ส่วนใหญ่จะยกย่อง มิเคลันเจโล(ศิลปินชื่อดัง)ที่มีส่วนสำคัญในการก่อสร้างโดยเฉพาะยอดโดมที่สวยงาม

 

ส่วนลานขนาดมหึมาด้านหน้าเป็นผลงานของศิลปินรุ่นหลังที่ชื่อ แบร์นินี (Bernini) ผู้ออกแบบน้ำพุต่าง ๆ รอบกรุงโรม (แสดงว่าลานสร้างหลังมหาวิหาร)เชื่อกันว่าตัวมหาวิหารสร้างบนที่ซึ่งเซนต์ปีเตอร์หรือที่รู้จักในบ้านเราว่านักบุญเปาโตรถูกประหารชีวิตด้วยการตรึงกางเขนแบบกลับหัวลงในยุคโรมันโบราณ
 
ภายในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สามารถเข้าชมได้ฟรี แต่ต้องผ่านกระบวนการตรวจตราอย่างละเอียด แล้วถ้าไปในช่วงฤดูท่องเที่ยวหรือเทศกาลสำคัญทางศาสนาก็ต้องต่อแถว


ยาวมาก ซึ่งการต่อแถวเพื่อเข้าชมอะไรก็ตามในประเทศ
อิตาลีถือเป็นของธรรมดา
สิ่งสำคัญภายในตัววิหารคือรูปประติมากรรมหินอ่อนอันมีชื่อเสียงของมิเคลันเจโล่ชื่อว่า Pieta ซึ่งเป็นรูปของพระแม่มารีประคองร่างของพระเยซูหลังจากสิ้นพระชนม์บนกางเขนไว้บนตัก เป็นรูปแกะสลักซึ่งสื่อถึงอารมณ์ความรักของแม่ได้อย่างลึกซึ้ง

 
บริเวณโดยรอบจะมีผู้ดูแลที่ทำหน้าที่เป็นทหารคุ้มครองพระสันตปาปา เรียกว่าSwiss guards มีประมาณร้อยนาย ทหารพวกนี้เป็นชาวสวิสทั้งหมด (เพราะถ้าเอาทหารอิตาลีมาเป็นทหารส่วนประองค์อาจเกิดการรวมประเทศ จึงเอาทหารสวิสฯมาแทนเนื่องจากเป็นประเทศที่เป็นกลางมากที่สุด)

ห้องที่มีชื่อเสียงที่สุดคือห้องซิสทีน(SistineChapel) ซึ่งใครที่มาชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ต่างก็ต้องการชมห้องนี้ให้ได้ห้องนี้ใช้เป็นที่ประชุมของพระคาร์ดินัลเพื่อเลือกพระสันตะปาปาองค์ต่อมีภาพวาดที่สวยงาม มิเคลันเจโลใช้เวลาถึง 4 ปีกินนอนอยู่บนนั่งร้านเพื่อวาดภาพปูนเปียกเป็นเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับปฐมกาล (Genesis) ตั้งแต่การสร้างโลก สร้างมนุษย์เพศหญิง สร้างมนุษย์เพศหญิง (Eve)จากซี่โครงของผู้ชาย อีฟทรยศต่อพระเจ้าจนถูกขับออกจากสวนอีเดนและภาพน้ำท่วมโลก รวมทั้งหมด 9 ภาพ


4 ปีต่อมา มิเคลันเจโลได้ถูกว่าจ้างให้กลับมาวาดภาพที่ห้องนี้อีกครั้ง เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดชื่อว่า วันพิพากษา (The Last Judgement) เป็นภาพที่เมื่อถึงวันสิ้นสุดโลก พระเจ้า(พระเยซูในรูป)จะเสด็จกลับลงมาและพิพากษามนุษย์แต่ละคนว่าใครควรจะขึ้นสวรรค์ ใครควรจะลงนรก ภาพนี้อยู่บนผนังกำแพงด้านหนึ่งเต็มๆ ของห้อง

ออกจากวาติกันมา จะต้องเห็นปราสาทแห่งนี้ที่ชื่อว่า Castel Sant'Angeloถึงจะไม่ได้อยู่ในกำแพงวาติกัน แต่ก็ถือว่าอยู่ในอาณาจักรของวาติกันตามสนธิสัญญาที่มุสโสลินีได้ให้ไว้ จะมีทางเดินลับเชื่อมระหว่างปราสาทแห่งนี้กับพระราชวังของพระสันตปาปาเพื่อเอาไว้หลบภัยหากศัตรูคิดจะมาจับตัวพระองค์ ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑ์